คุณเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ไหม? เปิดตู้เย็นเข้าไป หยิบขวดน้ำออกมาแต่รู้สึกว่า ไม่เย็นเลยสักนิด? หรืออาหารที่ควรจะแข็งกลับละลายเหมือนแช่ไว้ข้างนอก หากคุณกำลังเจอกับปัญหาแบบนี้ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าตู้เย็นของคุณ เริ่มมีปัญหาเรื่องการทำความเย็น

บทความนี้จะพาคุณไปดูว่า สาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็น มีอะไรบ้าง พร้อมวิธีเช็กและแก้ไขเบื้องต้นด้วยตัวเองง่าย ๆ ก่อนจะตัดสินใจเรียกช่างซ่อมให้เสียเงินโดยไม่จำเป็น
สาเหตุที่ทำให้ ตู้เย็นไม่เย็น
- ตู้เย็นไม่ได้เสียบปลั๊ก / ปลั๊กหลวม
วิธีเช็ก: ตรวจสอบว่าไฟแสดงสถานะติดหรือไม่
แนวทางแก้: เสียบปลั๊กใหม่ ตรวจสอบปลั๊กพ่วงหรือเบรกเกอร์
วิธีเช็ก: ใช้กระดาษหนีบระหว่างขอบประตูแล้วดึง ถ้าดึงออกง่ายแปลว่ารั่ว
แนวทางแก้: เปลี่ยนขอบยาง หรือระวังอย่าให้ของขวางประตู
วิธีเช็ก: ตรวจดูที่ปุ่มปรับอุณหภูมิ (ควรอยู่ระดับกลางหรือสูง)
แนวทางแก้: หมุนปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม โดยเฉพาะหน้าร้อน
- ของในตู้เย็นแน่นเกินไป
วิธีเช็ก: ช่องลมในตู้ถูกปิดบังไหม?
แนวทางแก้: จัดเรียงของให้มีช่องอากาศไหลเวียน
- พัดลมในตู้เย็นไม่ทำงาน
วิธีเช็ก: เปิดประตูแล้วลองฟังเสียงพัดลม
แนวทางแก้: ถ้าไม่หมุนเลย อาจต้องให้ช่างตรวจสอบ
- คอยล์เย็นหรือคอยล์ร้อนสกปรก
วิธีเช็ก: ดูด้านหลังหรือใต้ตู้เย็นว่ามีฝุ่นหนาไหม
แนวทางแก้: ใช้แปรงหรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด
- ระบบละลายน้ำแข็ง (Defrost) เสีย
อาการ: ตู้เย็นไม่เย็นแต่มีน้ำแข็งเกาะเต็ม
แนวทางแก้: ปิดตู้เย็นให้ละลายน้ำแข็งสัก 4–6 ชั่วโมง แล้วลองเสียบใหม่ หากยังมีปัญหา อาจต้องเปลี่ยนอะไหล่
- คอมเพรสเซอร์เริ่มมีปัญหา
อาการ: ตู้เย็นทำงานเงียบผิดปกติ หรือมีเสียงดังแปลก ๆ
แนวทางแก้: ควรให้ช่างตรวจสอบอย่างละเอียด
วิธีแก้ไขเบื้องต้นที่คุณทำเองได้

เมื่อไหร่ควรเรียกช่าง?
สรุปบทความ
ตู้เย็นไม่เย็นไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่คุณสามารถวินิจฉัยและแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง หากลองทำตามขั้นตอนแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรรีบเรียกช่างเพื่อป้องกันความเสียหายที่มากขึ้น